ระเบียบการตำรวจฯ (พ.ศ. 2557) ว่าด้วยการรับ–ส่งงานในหน้าที่ราชการ กำหนดแนวทางการปฏิบัติเมื่อมีการเปลี่ยนตัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยครอบคลุมถึงการส่งมอบเอกสาร แฟ้มงาน ทรัพย์สินราชการ รวมถึงภารกิจที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ต้องมีการจัดทำบัญชีส่ง–รับงานเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมลงลายมือชื่อผู้ส่งมอบและผู้รับมอบ และให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบรับรองความถูกต้อง
ระเบียบ ปปส. พ.ศ. 2565 นี้ กำหนดขั้นตอนและวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการตรวจรับ ตรวจพิสูจน์ เก็บรักษา ทำลาย และการนำยาเสพติดให้โทษมาใช้ประโยชน์ โดยเน้นให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนอย่างโปร่งใส มีการบันทึกข้อมูลและทำรายงานทุกครั้งที่มีการดำเนินการ รวมถึงการควบคุมการเคลื่อนย้ายและเก็บรักษาให้ปลอดภัย ป้องกันการสูญหายหรือรั่วไหล ตลอดจนต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดทั้งในด้านสถานที่เก็บรักษาและอุปกรณ์ที่ใช้
ระเบียบนี้กำหนดแนวทางปฏิบัติของข้าราชการตำรวจเมื่อถูกอ้างเป็นพยานในคดีอาญา เพื่อรักษาความเที่ยงธรรมและป้องกันปัญหาการให้การคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง อันอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ตำรวจต้องฝึกตนให้มีไหวพริบ รู้จักสังเกตและจดจำเหตุการณ์อย่างถูกต้อง เมื่อต้องให้การหรือเบิกความให้พูดความจริงตามที่รู้และเห็น ไม่กล่าวเกินจริงหรือบิดเบือน นอกจากนี้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่อบรมผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
ระเบียบนี้กำหนดให้ข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งรองสารวัตร สารวัตร หรือรองผู้กำกับการ (หรือเทียบเท่า) และปฏิบัติหน้าที่สอบสวน มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ (ต.ด.ส.) โดยต้องครบองค์ประกอบ คือ ได้รับการแต่งตั้ง ปฏิบัติหน้าที่สอบสวน สำเร็จหลักสูตรฝึกอบรม และมีประกาศนียบัตรด้านการสอบสวน อัตราจ่ายคือ รองสารวัตร 12,000 บาท/เดือน สารวัตร 14,400 บาท/เดือน และรองผู้กำกับการ 17,300 บาท/เดือน พร้อมเงื่อนไขการจ่ายกรณีลาหรือไปปฏิบัติราชการบางประเภท
ระเบียบนี้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พักแก่ล่ามและล่ามภาษามือที่พนักงานสอบสวนจัดหาให้แก่ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือพยานในคดีอาญา โดยมีอัตราค่าป่วยการไม่ต่ำกว่าชั่วโมงละ 500 บาท และไม่เกินชั่วโมงละ 800 บาท โดยรวมต่อวันต้องไม่น้อยกว่า 500 บาทและไม่เกิน 2,400 บาท การกำหนดอัตราจะพิจารณาจากความยากง่ายของงาน ความเชี่ยวชาญ และคุณวุฒิของล่าม
ระเบียบฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบเดิมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการจัดการ ของกลางและของส่วนตัวผู้ต้องหา โดยกำหนดวิธีการเก็บรักษา จัดทำบัญชี ส่งมอบ และทำลาย เพื่อให้การดำเนินงานมีความถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งนี้ครอบคลุมถึงความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขั้นตอนการรายงานต่อผู้บังคับบัญชา
เนื้อหาหนังสือฉบับนี้เป็นข้อกำหนดและขั้นตอนเกี่ยวกับการแจ้งข้อมูลบุคคลที่อยู่ระหว่างติดตามตัวตามหมายจับไปยังนายทะเบียนกลาง เพื่อบันทึกและใช้ประกอบการดำเนินงานตามกฎหมาย โดยระบุถึงหน้าที่ของหน่วยงานตำรวจที่ต้องส่งข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้อง และทันเวลา เพื่อให้ฐานข้อมูลเป็นปัจจุบันและสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงในการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา
เอกสารนี้เป็นข้อกำหนดและขั้นตอนเกี่ยวกับการพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหา ผู้ต้องขัง ผู้ต้องกัก ผู้ถูกกักกัน ผู้รับการอบรม และศพ เพื่อใช้ในการบันทึกประวัติและตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล โดยเจ้าหน้าที่ต้องจัดให้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือตามมาตรฐาน กรอกข้อมูลประจำตัวอย่างถูกต้อง ตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตน และจัดส่งสำเนาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานทะเบียนราษฎร์ หรือหน่วยงานตรวจสอบกลาง
คำสั่งนี้กำหนดขั้นตอนการปฏิบัติ อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวนอย่างชัดเจน เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานเดียวกัน โดยครอบคลุมตั้งแต่การรับแจ้งความ การสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐาน ไปจนถึงการส่งสำนวนต่อพนักงานอัยการ รวมทั้งการควบคุมตัวผู้ต้องหาและการรายงานผลการปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
คำสั่งนี้กำหนดแนวทางและขั้นตอนปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรับแจ้งความคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งการแจ้งด้วยตนเองที่สถานีตำรวจ การแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ หรือวิธีการอื่นที่สะดวกต่อประชาชน โดยมุ่งเน้นให้การรับแจ้งเป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และสามารถบันทึกข้อมูลได้ครบถ้วนเพื่อนำไปใช้ติดตามคดีต่อไป